Snowpiercer (2020)

Snowpiercer ถือเป็นซีรีย์อีกหนึ่งเรื่องหน้าดูของปี 2020 เรื่องราวเกี่ยวกับการเอาตัวรอดของมนุษย์ ท่ามกว่าความหนาวเย็น อุณหภูมิบนโลก ติดลบ เป็นหนังที่มีครบทุกรสชาติ ทั้ง เอาตัวรอด ดราม่า การผจญภัย ลึกลับซ่อนเงื่อน โดนหนังเรื่องนี้ได้สะท้อนความคิด ชนชั้น แนวทางต่างๆ ของมนุษย์ไว้ด้วยกัน

ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้รับแรงบรรดาลใจจากหนัง Snowpiercer ที่สร้างในปี 2013 ด้วยการตอบรับที่ดี netfilx ได้นำเรื่องนี้นี้มาทำเป็นซีรีย์ ทั้งหมด 10 ตอน ในซีซั่นแรก ให้ทุกท่านติดตาม

เรื่องย่อของ Snowpiercer โลกในอนาคตนักวิทยาศาสตร์คิดสารแก้โลกร้อน แต่กลายเป็นว่าทำให้อุณหภูมิโลกลดลงจนใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้ รถด่วนขบวนพิเศษของวิลฟอร์ดที่วิ่งไปรอบโลกเพื่อผลิตไฟฟ้าคอยเลี้ยงระบบนิเวศในรถเป็นเพียงพาหนะเดียวที่สิ่งมีชีวิตอยู่รอด และวิลฟอร์ดก็เลือกขายตั๋วสุดแพงให้กับพวกคนรวยเท่านั้น ทว่าในตอนที่รถออกตัวพวกคนที่ไม่มีเงินซื้อตั๋วต่างทำลายรั้วและแย่งขึ้นท้ายขบวนรถสำเร็จ หลังจากนั้นรถด่วนนี้ก็เกิดมีชนชั้นที่แตกต่างกันสุดขั้วขึ้น หัวขบวนใช้ชีวิตหรูหรา ท้ายขบวนไม่มีอาหารจะทานจนเกิดลัทธิล่ามนุษย์ กินอยู่กันอย่างแออัด และถูกจำกัดสิทธิ์การมีบุตร นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของกลุ่มต่อต้านจากท้ายขบวนที่ต้องการปฏิวัติรถด่วนนี้

นับเป็นซีรีส์ที่มาแรงที่สุดทางเน็ตฟลิกซ์เรื่องหนึ่ีงในเวลานี้ แม้เพิ่งจะลงมาแค่ 2 ตอนจากทั้งหมด 10 ตอนในซีซันแรกเท่านั้น ความน่าสนใจที่สำคัญที่สุดคือ นี่เป็นการดัดแปลงจากภาพยนตร์ชื่อเรื่องเดียวกัน ผลงานของ บองจุนโฮ ผู้กำกับเกาหลีใต้ที่เพิ่งคว้าออสการ์ปีล่าสุดไปครองกับหนัง Parasite โดย Snowpiercer ที่สร้างในปี 2013 นับเป็นบันไดก้าวสำคัญที่ทำให้บองจุนโฮถูกจดจำได้ในตลาดโลก เพราะครั้งนั้นเขาได้ร่วมงานกับทั้ง คริส อีแวนส์, ทิลดา สวินตัน, เอ็ด แฮรร์ริส และ ออกทาเวีย สเปนเซอร์ ซึ่งล้วนเป็นดาราระดับโลกที่พาให้หนังขายได้ทุกย่านร้านตลาดแบบสบาย ๆ

และถ้าพูดถึงในแง่เนื้อหา Snowpiercer ก็เป็นหนังไฮคอนเซ็ปต์ที่พูดเรื่องชนชั้นที่เป็นเรื่องนามธรรม ให้ออกมาเป็นรูปธรรมผ่านมิติแห่งหนังไซไฟปรัชญาได้แบบที่เข้าใจง่ายพอสมควร และเรื่องชนชั้นนี้ก็เป็นไม้เด็ดที่ถูกขยายอย่างซ้ำ ๆ จนในที่สุดบองจุนโฮก็เอาชนชั้นปรสิตไปคว้าออสการ์กลับบ้านได้สำเร็จ เรียกว่าหนังเรื่องนี้เป็นทั้งหนึ่งในบันไดและขั้นตอนสู่ความสำเร็จแบบมีแบบแผนของบองจุนโฮก็ว่าได้

เมื่อความสำคัญมันมากเฉกนี้แล้ว ไม่แปลกที่เมื่อเราได้ยินว่าเน็ตฟลิกซ์จะนำมาทำซีรีส์แล้วจะเกิดมโนคติโดยยกความประทับใจแรกจากการชมฉบับหนังมาทาบปิดตาไว้ ว่านี่จะต้องเป็นซีรีส์ที่เข้มข้น แฟนตาซีโลกล่มสลายดิ่งมืดสุดติ่งอย่างที่มีจุดเฉลยเหวอ ๆ แบบตอนได้รู้ความจริงเรื่องก้อนโปรตีน ที่สำคัญต้องมีตัวละครมากมายที่สีสันจัดจ้าน เช่นเดียวกับที่เคยประทับใจในตัวละครของทิลดา สวินตัน แน่ ๆ