รีวิวหนัง Sonic the Hedgehog 3 (2024)

Sonic the Hedgehog 3 โดยจิม แคร์รีย์ไม่เพียงแต่แสดงได้อย่างสนุกสนานเพียงหนึ่งครั้งแต่ถึงสองครั้ง ซึ่งย้อนกลับไปถึงความยิ่งใหญ่ในการแสดงตลกของเขาเมื่อสามทศวรรษที่แล้ว คุณคิดถึงการแสดงตลกโปกฮาของ “Dumb & Dumber” หรือไม่? ในบทความนี้ คุณจะได้ชมการแสดงของ Robotnik และ Robotnik แครี่กลับมารับบทผู้วางแผนชั่วร้ายจากภาพยนตร์ “Sonic” สองภาคก่อนหน้านี้ พร้อมกับรับบทเป็นเจอรัลด์ โรบ็อตนิก ปู่ของดร. อีโว โรบ็อตนิกที่ชั่วร้ายไม่แพ้กัน ทั้งคู่พูดมากและมีหนวดเคราที่ประณีต และในวินาทีที่ญาติพี่น้องที่หายสาบสูญไปนานเหล่านี้พบกัน ก็เกิดการแตกหักที่แยกออกจากกัน ซึ่งเหนือกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใน ” Mufasa: The Lion King ” ของสัปดาห์นี้

ในทางทฤษฎีแล้ว คุณมาที่นี่เพื่อชมโซนิค ซึ่งให้เสียงพากย์โดยเบ็น ชวาร์ตซ์อีกครั้งด้วยความทะนงตนและความกวนโอ๊ย แต่เขายังคงถูกเพื่อนร่วมแสดงแย่งซีนไปในภาคที่สามของผู้กำกับเจฟฟ์ ฟาวเลอร์ นอกจากแคร์รีย์แล้ว ยังมีคีอานู รีฟส์ที่เล่นบทแชโดว์ด้วยความเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ลองนึกภาพจอห์น วิคเป็นเม่นอวกาศผู้มีพลังพิเศษและชั่วร้าย แล้วคุณจะนึกภาพออกว่ารีฟส์จริงจังแค่ไหนกับภารกิจนี้ ว้าว

ทั้งนี้ก็เพื่อบอกว่า Sonic the Hedgehog 3 ดีกว่าที่ควรจะเป็นมาก: เป็นการดัดแปลงเป็นวิดีโอเกม เป็นภาคต่อ 3 ภาค เป็นภาพยนตร์สำหรับครอบครัวที่ออกฉายก่อนคริสต์มาส ส่วนตัวแล้ว ฉันไม่ใช่แฟนของวิดีโอเกมของ Sega เลย ฉันไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนเลยตลอดชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ข้อกำหนดในการสนุกกับเกมนี้ ดูหนังออนไลน์

“Sonic 3” ต้องใช้เวลาสักพักจึงจะเริ่มต้นได้ และเนื้อเรื่องก็แสนจะน่าเบื่อตั้งแต่ต้น และบทภาพยนตร์จากนักเขียนที่กลับมาอย่าง Pat Casey และ Josh Miller รวมถึง Josh Whittington ก็มีคำสบประมาทของวัยรุ่นและการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมป๊อปมากเกินไป แต่สำหรับหลายๆ คนแล้ว นั่นจะเป็นแค่ฟีเจอร์ ไม่ใช่จุดบกพร่อง นั่นเป็นเพียงตัวตนของ Sonic