My Hero Academia: You’re Next (2024) มายฮีโร่อคาเดเมีย ภาคแยกภาพยนตร์ลำดับที่สี่จากภาพยนตร์ลอกเลียนแบบ X-Men ของญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องผ่านฉากแอ็กชั่นสุดฝันที่เล่าถึงป้อมปราการลอยฟ้าที่เหยื่อจะถูกแปลงเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ผู้คนต่างหลงใหลในความแข็งแกร่ง พลังคือความบันเทิง” ดาร์ก ไมท์ (ให้เสียงโดยเคนตะ มิยาเกะ) ผู้ต้องการเป็นผู้กอบกู้โลกกล่าวในภาพยนตร์ภาคแยกเรื่องที่สี่ของ X-Men ดูหนังออนไลน์ เวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่แสนจะบ้าระห่ำ นับเป็นคำกล่าวที่ใกล้เคียงกับการวิจารณ์ตัวเองแบบ Watchmen ของภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าพ่อจอมอวดดีผู้นี้มีความคล้ายคลึงกับโอซิมานเดียส วายร้ายสุดขั้วของอลัน มัวร์
Dark Might มีแผนที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก All Might อดีตผู้เป็นปรมาจารย์และปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนวิชาฮีโร่พื้นฐานที่สถาบันฮีโร่ชั้นนำของญี่ปุ่น แต่ความรุนแรงเกินขอบเขตที่เขาใช้จัดการกับผู้กระทำผิดทำให้ Midoriya (Daiki Yamashita) ลูกศิษย์คนเก่งเกิดความกังวล ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลเมื่อ Dark Might ใช้ลำแสงดึงเขาและผู้คนรอบข้างเข้าไปในป้อมปราการบินขนาดยักษ์ของเขา ดินแดนมหัศจรรย์อันกว้างใหญ่แห่งนี้คือที่ที่ผู้ร้ายตัวฉกาจบังคับให้ Anna (Meru Nukumi) ทาสของเขา เปลี่ยนเหยื่อที่เข้ากันได้ให้กลายเป็นซูเปอร์โฟล์คที่เสริมพลังซึ่งจะเข้าร่วมฝ่ายของเขา
หากพลังคือความบันเทิง ผู้กำกับ Tensai Okamura ซึ่งเคยทำงานใน Neon Genesis Evangelion และ Cowboy Bebop ก็คงไม่กัดมือที่คอยป้อนอาหารให้ แต่จะไม่กัดมือที่คอยป้อนอาหารให้ เมื่อมีท่าไม้ตายมากมายที่ประกาศไว้ล่วงหน้า (เช่น Austin Powers พูดว่า “Judo chop!”) จุดเด่นของหนังคือ “Manchester Smash” (น่าเสียดายที่ไม่มีฉากจูบที่ Glasgow Kiss) แต่หากภาคนี้หมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้และเล่าเรื่องไม่ชัดเจนเหมือนภาคก่อนๆ ก็ยังเพิ่มความนุ่มนวลแบบเหนือจริงในรูปของรังผึ้งสไตล์ยูโรบาร็อคของ Dark Might สถานะฟูเก้ที่สวยงามเกินจริงที่เกิดจากลูกน้องของเขา และลูกน้องมาเฟียที่คอยช่วยเหลือ (ยังมีการล้อเลียนเรื่อง The Godfather ที่ตัวตนในอดีตของ Dark Might เป็นเหมือนน้ำลายของ Fredo Corleone)